สายไฟ ชนิดของสายไฟ และวิธีเลือกสายไฟ ให้เหมาะสมกับการใช้งาน ป้องกันอันตรายจากการลัดวงจร
การเลือกใช้สายไฟให้เหมาะสมนั้น อาจจะเป็นเรื่องที่ไกลตัวผู้ใช้งานอย่างมาก เพราะการเลือกใช้สายไฟโดยส่วนใหญ่จะต้องเป็นผู้ชำนาญการในการเลือกใช้ แต่ทั้งนี้ก็ควรจะมีความรู้เกี่ยวกับสายไฟว่ามีกี่ชนิด และวิธีการเลือกใช้อย่างไรให้เหมาะสมด้วย
ชนิดของสายไฟ
สายไฟนั้นก็มีการแบ่งประเภทการใช้งานที่แตกต่างกัน โดยจะมีการแบ่งการใช้งานดังนี้
1. สาย VAF / VAF-G
สายไฟชนิดนี้จะมีชื่อเรียกกันว่า VAF เป็นสายที่ใช้กันอยู่ทั่วไป โดยจะสั่งสังเกตเห็นได้ง่ายเพราะมีการใช้งานกันค่อนข้างมาก โดยสายไฟชนิดนี้จะทนอุณหภูมิได้ไม่เกิน 70 องศาและทนแรงดันได้แค่ 300/500 ซึ่งไม่มีสายกราวด์แต่สายไฟฟ้า VAF-G จะเป็นสายไฟที่มีสายกราวด์อยู่ในตัว โดยสายประเภทนี้ช่างจะนิยมนำมาใช้ในการเดินลอยตีกิ๊บหรือเข็มขัดรัดสายไฟภายในอาคาร และสายแบบนี้ห้ามใช้งานคู่กับการร้อยท่อหรือการฝังดินเด็ดขาดเพราะไม่เหมาะสม โดยจะมีสายอีกอย่างที่สามารถใช้งานกับการร้อยท่อและฝังดินได้ ซึ่งการเลือกใช้สายทั้ง 2 แบบนี้จะต้องดูที่ความเหมาะสมในการใช้งาน นั่นก็คือถ้าต้องการเดินสายไฟที่สามารถโค้งงอแล้วก็ดัดได้มาก ควรเลือกแบบที่ตีเกลียวด้านใน แต่ถ้าเป็นการเดินสายปกติไม่มีการโค้งงอที่เยอะมากนัก สามารถเลือกใช้แบบแข็งได้จะทำให้ได้เส้นสายไฟที่เรียงสวยกว่านั่นเอง
2. สายไฟ THW
สายไฟชนิด THW ลักษณะของสายจะเป็นสายประเภทแกนเดี่ยว สามารถทนแรงดันได้ 450/750V สายประเภทนี้สามารถที่จะใช้เดินร้อยท่อได้ หรือเดินลอยในอากาศก็สามารถทำได้เช่นกัน ซึ่งหากต้องการใช้การตีกิ๊บช่างส่วนใหญ่จะไม่แนะนำเพราะจะเปลืองกว่าการใช้ แบบ VAF และสายแบบ THW นี้ช่างจะไม่แนะนำให้เดินฝังดินไม่ว่าจะเป็นการร้อยท่อฝังดินหรือเดินสายแบบเปล่าๆ ก็ไม่สมควรทั้งนั้น
3. สายไฟแบบ VCT / VCT-G
สายไฟแบบนี้จะสามารถทนความร้อนได้ถึง 70 องศาและยังสามารถทนแรงดันได้ถึง 450/750 V ซึ่งหากมองด้วยตาเปล่าจะเห็นได้ง่ายๆ ว่าสายเป็นสายกลม สามารถดัดโค้งงอได้ง่าย เป็นทองแดงตรงแกนกลาง ซึ่งทองแดงจะเป็นฝอยทำให้ทนการสั่นสะเทือนได้ดีส่งผลให้ต่อเข้าเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ง่าย ซึ่งสายไฟแบบนี้จะเป็นสายไฟที่ค่อนข้างสารพัดประโยชน์เพราะไม่ว่าจะใช้เดินสายทั่วไป รวมทั้งการร้อยท่อ เดินในราง ตีกิ๊บหรือแม้จะฝังดินหรือฝังร้อยท่อ สายไฟชนิดนี้ก็สามารถทำได้ทั้งหมด ซึ่งตามท้องตลาดนัดก็จะมีหลายแบบให้เลือก เช่น แบบสายด้านในเป็นแกนเดี่ยวหรือแกนคู่ และอีกแบบคือหลายแกนพร้อมกับสายดิน แต่สายไฟชนิดนี้นั้นจะมีความแข็งค่อนข้างมากจึงไม่ค่อยนิยมเอามาเดินภายในอาคาร จะนิยมใช้เพื่อเดินต่อระหว่างอุปกรณ์มากกว่า หรือเรียกง่ายๆ ว่าใช้เดินภายในท่อง่ายกว่านั่นเอง
4. สายไฟ NYY / NYY-
สายไฟที่ช่างส่วนใหญ่จะนิยมใช้เดินฝังดินหรือเดินบนราง ด้วยความที่มีฉนวนที่ถูกออกแบบมาให้มีการหุ้ม 2 ชั้นจึงทำให้สายไฟมีความคงทนที่สูง โดยไม่ว่าจะเดินสายไฟยังไงก็สามารถทำได้ทั้งนั้น ซึ่งสายเองก็สามารถทนแรงดันได้ 450/750V และยังสามารถทนความร้อนได้ถึง 70 องศา โดยสายไฟที่ขายในประเทศไทยส่วนใหญ่จะมีหลายแบบทั้งแบบแกนเดียวและหลายแกน หรือจะเป็นหลายแกนที่มีสายดิน ทำให้สามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม ข้อควรระวังของสายแบบนี้นั่นก็คือสายด้านในจะเป็นทองแดงที่เป็นระบบตีเกลียว ทำให้โค้งงอสายได้แค่นิดหน่อย ไม่ควรใช้กับงานที่ต้องมีการโค้งเยอะๆ หากต้องการใช้งานโค้งมากๆ แนะนำให้ไปใช้กับสาย VCT จะเหมาะกว่า
วิธีเลือกใช้สายไฟให้เหมาะสม
การเลือกใช้สายไฟให้เหมาะสมกับงานนับว่าเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างสูง โดยปกติช่างที่ผ่านการอบรมมาจะมีความรู้ในเรื่องการใช้สายไฟอยู่แล้ว แต่หากมีการซื้อสายไฟโดยให้คนที่ไม่มีความรู้ไปซื้ออาจเกิดข้อผิดพลาดได้ ดังนั้นการเลือกใช้สายไฟฟ้าให้เหมาะสมกับบ้านจึงมีข้อควรรู้
- เลือกใช้สายไฟที่ผ่านมาตรฐานจากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมหรือ มอก. นั่นเอง และเพื่อความปลอดภัยที่ใช้ในงานควรเลือกใช้สายไฟที่ได้รับมาตรฐาน และได้รับการยอมรับในระดับสากลดีที่สุด
- ต้องมีความรู้ความเข้าใจว่าสายไฟแต่ละอย่างใช้งานไม่เหมือนกัน หากต้องการใช้สายไฟที่ใช้การตีกิ๊บเดินลอยในบ้านก็ต้องเลือกสายไฟให้ถูกลักษณะ แต่หากต้องการใช้สายไฟที่ใช้ในการร้อยท่อเป็นหลัก ก็ต้องเลือกใช้อีกแบบหนึ่ง แต่โดยปกติแล้วช่างจะเป็นคนแนะนำให้ หรือจะเป็นการเขียนสเปกแล้วให้เจ้าของบ้านเป็นคนไปซื้อมา เพื่อจะได้ไม่ซื้อผิด
การเลือกใช้สายไฟนั้นไม่ใช่เพียงคำนึงแค่เรื่องการใช้งาน ราคาและความคุ้มค่าเท่านั้น แต่จะต้องรู้ด้วยว่าสามารถใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านได้เหมาะสมหรือไม่ หากต้องมีการเดินสายเพื่อใช้งานไฟฟ้าต่างๆ เช่น การใช้แอร์ตู้เย็นหรือไมโครเวฟที่ต้องอยู่ติดกันก็ต้องเลือกสายไฟที่มีคุณภาพและให้ช่างผู้ชำนาญการเป็นคนติดตั้งเท่านั้น